เปรียบเทียบซื้อของตลาดออนไลน์กับตลาดแบบดั้งเดิม Leave a comment

เปรียบเทียบซื้อของตลาดออนไลน์กับตลาดแบบดั้งเดิม

สวัสดีครับ เพื่อนๆรู้จักกับคำว่า E-Marketplace (Electronic Marketplace) ไหมครับ หากแปลตรงตัวก็คือตลาดบนช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือตลาดออนไลน์นั่นเอง ซึ่งหากนึกถึงตลาดออนไลน์ในปัจจุบันเพื่อนๆคงนึกถึง Lazada ,Shopee ,Kaidee ,Thamdoo ,amazon และอื่นๆอีกมากมาย

หากย้อนไปช่วงยุคปี 2000 ยุคโทรศัพท์มือถือ Nokia 3310 วางตลาดใหม่ๆ ในราคาหมื่นต้นๆ หากจะมีซักคนที่จะซื้อผ่านหน้าเว็บโดยโอนเงินไปให้ผู้ขายก่อน คงจะหายากหรือไม่มีเลย นั่นก็เพราะตลาดบนช่องทางออนไลน์ยังไม่เป็นที่ไว้วางใจสำหรับผู้ซื้อและมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่าการเดินไปซื้อหน้าร้าน แต่ในปัจจุบันเราสามารถสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือราคา 20,000 บาท ผ่านช่องทางออนไลน์ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้ของและมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก นั่นก็เพราะการพัฒนาของเทคโนโลยีตลาดออนไลน์นั้นพัฒนาไปมากจนทำให้เรามั่นใจว่าจะได้ของแน่นอน

แล้วการรุกคืบตลาดที่มากขึ้นเรื่อย ๆของตลาดออนไลน์จะทำให้ตลาดแบบดั้งเดิมหรือ Traditional Marketing สูญหายไปหรือไม่ ซึ่งคำตอบนั้นคือ ยากมากที่ตลาดแบบดั้งเดิมจะหายไป นั่นก็เพราะ ตลาดแบบดั้งเดิมก็มีจุดเด่นของตัวเองที่ตลาดออนไลน์ยังเป็นรองอยู่  ในวันนี้เราจะมาดูตลาดทั้งสองแบบว่ามีจุดเด่นอะไรบ้างที่จะยังดึงดูดผู้ซื้อให้เข้ามาใช้บริการ

 

ตลาดแบบดั้งเดิม

  • สามารถจับต้องสินค้าและทดลองได้ ข้อนี้เป็นจุดเด่นที่ตลาดออนไลน์จะเอาชนะตลาดแบบดังเดิมได้ยาก อีกทั้งการได้จับได้ลองสินค้ายังสร้างความพอใจให้กับผู้ซื้อแม้ยังไม่ซื้อสินค้า ซึ่งตลาดออนไลน์ไม่สามารถสร้างความรู้สึกนี้ให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอน
  • ได้สินค้าทันที ข้อนี้ก็เป็นอีกจุดเด่นที่ตลาดออนไลน์ยังเป็นรอง เนื่องจากตลาดแบบดังเดิมหลังจากที่เราจ่ายเงิน เราก็สามารถนำสินค้ากลับไปใช้ได้ทันที ต่างกับการซื้อออนไลน์ที่ต้องรอสินค้าจัดส่งมาอีกทีหลังจากเราสั่งซื้อ
  • การรับประกันและการเคลมสินค้า หลังจากที่เราซื้อสินค้าแล้วหากสินค้าชำรุดสามารถนำมาเปลี่ยนได้ทันที ซึ่งหากเทียบกับการซื้อออนไลน์นั้น จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่าและเสียเวลาในการส่งสินค้าไปกลับ
  • ปลอดภัยจากการถูกหลอกลวง ในข้อนี้ยังเป็นจุดเด่นที่ลูกค้าจะได้สินค้าอย่างแน่นอนหลังจากจ่ายเงินแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกมิจฉาชีพหลอกลวง (ทั้งนี้การแยกสินค้าแท้เทียมขึ้นอยู่กับผู้ซื้อ)
  • ผู้ขายหรือพนักงานให้คำปรึกษา ตลาดแบบดั้งเดิมนั้นจะมีผู้ขายหรือพนักงานให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีการใช้งานให้กับเรา ซึ่งเป็นข้อดีที่ตลาดออนไลน์นั้นอาจทำได้ไม่ดีเท่าตลาดแบบดั้งเดิม

 

ตลาดออนไลน์

  • มีสินค้าให้เลือกมากกว่า ในมุมของตลาดออนไลน์นั้น หนึ่งในจุดเด่นก็คือการมีสินค้าให้เลือกมากกว่า และยังสามารถเปรียบเทียบราคาและคุณภาพของแต่ละร้านได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ จึงเป็นจุดเด่นที่ตลาดแบบดั้งเดิมให้ไม่ได้
  • ไม่ต้องเดินทางไปที่ร้าน ในข้อนี้ก็เป็นอีกจุดเด่นที่เอาชนะตลาดแบบดั้งเดิม เพราะตลาดออนไลน์จะลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการไปซื้อสินค้าที่ร้าน และที่สำคัญหากสินค้าที่เราต้องการอยู่ต่างจังหวัดหรืออยู่ต่างประเทศ คงไม่คุ้มค่าแน่ที่เราจะเดินทางไปซื้อสินค้านั้น
  • สามารถซื้อสินค้าตอนไหนก็ได้ และข้อนี้เองก็เป็นอีกจุดเด่นของตลาดออนไลน์ เพราะตลาดออนไลน์นั้นสามารถซื้อขายได้ 24 ชั่วโมง เราสามารถสั่งซื้อสินค้าที่ต้องการได้โดยไม่ต้องรอให้ร้านเปิด
  • ไม่มีผู้ขายหรือพนักงานสร้างความกดดันในการเลือกสินค้า การเลือกซื้อของออนไลน์เราสามารถดูรายละเอียดสินค้าได้นานเท่าไหร่ก็ได้ หรือจะเปรียบเทียบไปมาระหว่างร้านก็ได้โดยไม่ต้องกังวลกับผู้ขายหรือพนักงาน
  • สามารถดูคำติชมของผู้ซื้อได้ผ่านการแสดงความคิดเห็น ในตลาดออนไลน์จะมีระบบรีวิวสินค้า ที่ผู้ซื้อสามารถเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อสินค้าได้ ซึ่งตลาดแบบดั้งเดิมไม่สามารถให้เราได้ จึงเป็นอีกข้อดีของตลาดออนไลน์

 

และทั้งหมดนี้คือจุดเด่นของตลาดแบบดั้งเดิมและตลาดออนไลน์ ซึ่งหากจะเปรียบเทียบว่าแบบไหนดีกว่ากันนั้นคงไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ เนื่องจากแต่ละแบบจะมีจุดเด่นของตัวเอง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อว่าสะดวกหรือต้องการซื้อสินค้าในช่องทางใดนั่นเอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *