เปรียบเทียบซื้อของตลาดออนไลน์กับตลาดแบบดั้งเดิม สวัสดีครับ เพื่อนๆรู้จักกับคำว่า E-Marketplace (Electronic Marketplace) ไหมครับ หากแปลตรงตัวก็คือตลาดบนช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือตลาดออนไลน์นั่นเอง ซึ่งหากนึกถึงตลาดออนไลน์ในปัจจุบันเพื่อนๆคงนึกถึง Lazada ,Shopee ,Kaidee ,Thamdoo ,amazon และอื่นๆอีกมากมาย หากย้อนไปช่วงยุคปี 2000 ยุคโทรศัพท์มือถือ Nokia 3310 วางตลาดใหม่ๆ ในราคาหมื่นต้นๆ หากจะมีซักคนที่จะซื้อผ่านหน้าเว็บโดยโอนเงินไปให้ผู้ขายก่อน คงจะหายากหรือไม่มีเลย นั่นก็เพราะตลาดบนช่องทางออนไลน์ยังไม่เป็นที่ไว้วางใจสำหรับผู้ซื้อและมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่าการเดินไปซื้อหน้าร้าน แต่ในปัจจุบันเราสามารถสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือราคา 20,000 บาท ผ่านช่องทางออนไลน์ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้ของและมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก นั่นก็เพราะการพัฒนาของเทคโนโลยีตลาดออนไลน์นั้นพัฒนาไปมากจนทำให้เรามั่นใจว่าจะได้ของแน่นอน
เทคนิคการซื้อของออนไลน์ให้ปลอดภัย ไม่ถูกโกง
เทคนิคการซื้อของออนไลน์ให้ปลอดภัย ไม่ถูกโกง ในปัจจุบันธุรกิจออนไลน์กลายเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยการมาถึงของ E-Commerce ที่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทำธุรกิจออนไลน์สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น บวกกับการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส Covid-19 ที่จำกัดการเดินทางส่งผลให้ผู้คนต้องหันมาซื้อของและบริการในช่องทางออนไลน์มากขึ้นเป็นเท่าตัว แล้วการซื้อของออนไลน์มีความเสี่ยงไหม สำหรับประเทศไทย กับคำว่าการซื้อของและบริการออนไลน์นั้นถือว่าไม่ใช่คำใหม่อะไร เนื่องจากก่อนหน้าที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 เราก็กำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ E-Commerce เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นั่นจึงทำให้ผู้ขายหรือผู้ให้บริการมีมาตรฐานและมีศักยภาพในการให้บริการลูกค้าประกอบกับการมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิ์ของผู้บริโภค จึงทำให้ลดความเสี่ยงในการถูกโกงผ่านการซื้อของออนไลน์ได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีผู้ที่ถูกโกงหรือถูกเอารัดเอาเปรียบจากการซื้อของและบริการออนไลน์อยู่ไม่น้อย ซึ่งนอกจากกฎหมายแล้วตัวของผู้ซื้อก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ด้วยเช่นกัน ซึ่งเราจะมาดูวิธีการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ให้ปลอดภัย ไม่ถูกโกง ว่ามีอะไรบ้าง เลือกซื้อกับร้านค้าที่มีที่อยู่และข้อมูลผู้ขายที่ชัดเจน สิ่งหนึ่งที่สำคัญในการเลือกซื้อของและบริการออนไลน์คือความน่าเชื่อถือของร้าน
เป็นเจ้าของธรุกิจ e-Commerce ง่ายๆกับ thamdoo.com
เป็นเจ้าของธรุกิจ e-Commerce ง่ายๆกับ thamdoo.com ในปัจจุบันการทำธุรกิจ e-Commerce มีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น เนื่องจากมีผู้ให้บริการร้านค้าออนไลน์อยู่หลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น Lazada ,Shopee ,LnwShop ,PAGE365 และอื่นๆ จึงทำให้เจ้าของธุรกิจเพียงแค่นำสินค้ามาขายเท่านั้น ไม่ต้องลงทุนในการเช่าซื้อและพัฒนาระบบร้านค้าออนไลน์ด้วยตนเอง thamdoo.com เป็นหนึ่งผู้ให้บริการในการทำธุรกิจ e-Commerce ที่มีระบบหน้าร้านและระบบจัดการสินค้าที่จำเป็น ซึ่งผู้ขายเพียงแค่เปิดร้านและนำสินค้ามาลงขายโดยไม่ต้องจัดการหรือติดตั้งระบบร้านค้าออนไลน์ thamdoo.com มีแพคเกจการให้บริการดังนี้ แพคเกจ ฟรี เป็นแพคเกจที่มีคุณสมบัติพื้นฐานมาให้ใช้เปิดร้านค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น ระบบจัดส่งสินค้า ระบบสต๊อก ระบบชำระเงิน
แนะนำการใช้งาน Woocommerce ตอนที่ 2 การเพิ่มสินค้าและการสั่งซื้อ
แนะนำการใช้งาน Woocommerce ตอนที่ 2 การเพิ่มสินค้าและการสั่งซื้อ ในตอนที่ 1 เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการติดตั้งปลั๊กอิน Woocommerce บน WordPress ไปแล้ว และในตอนที่ 2 นี้เราจะมาทดลองเพิ่มสินค้าเข้าไปในระบบ และทดสอบการสั่งซื้อสินค้าว่ามีการทำงานอย่างไรกันบ้างครับ จากหน้าจัดการหรือ Dashboard เมนู Products จะมีเมนูย่อยอีก 5 เมนูดังในภาพที่ 1 คือ All Products ,Add New ,Categories
แนะนำการใช้งาน Woocommerce ตอนที่ 1 การติดตั้งและแนะนำเมนูต่างๆ
แนะนำการใช้งาน Woocommerce ตอนที่ 1 การติดตั้งและแนะนำเมนูต่างๆ Woocommerce เป็นปลั๊กอินสำหรับการทำ e-commerce ที่ทำงานบนโปรแกรมสร้างเว็บสำเร็จรูป WordPress ที่นิยมในปัจจุบัน โดยมีฟังก์ชันการทำงานครบตามความต้องการของผู้ใช้ ในวันนี้เราจะมาเรียนรู้การใช้งาน Woocommerce เบื้องต้น ว่ามีการใช้งานอย่างไรกันบ้าง ก่อนอื่นเรามาดูขั้นตอนการติดตั้ง Woocommerce บน WordPress โดยมีขั้นตอนดังนี้ ให้ผู้ใช้เข้าไปติดตั้งปลั๊กอิน Woocommerce ที่เมนูปลั๊กอินด้านข้างแถบเครื่องมือ ซึ่งเมื่อเข้ามาในเมนูดังกล่าวแล้วจะพบรายชื่อปลั๊กอินที่มีการติดตั้งไว้แล้ว โดยผู้ใช้จะต้องคลิ๊กที่ปุ่ม เพื่อเพิ่มปลั๊กอินใหม่ รูปที่ 1
e-Commerce คืออะไร ทำไมธุรกิจยุคใหม่ต้องนำมาใช้งาน
e-Commerce คืออะไร ทำไมธุรกิจยุคใหม่ต้องนำมาใช้งาน /***************************************************************/ บทความเกี่ยวกับ การให้ความรู้เกี่ยวกับ e-Commerce จุดมุ่งหมาย เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบถึงความหมายของ e-Commerce และทราบถึงประโยชน์ต่อธุรกิจ ใจความสำคัญ e-Commerce คืออะไร และมีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร คำสำคัญ e-Commerce จำนวนคำ 500 คำ /***************************************************************/ e-Commerce (Electronic Commerce) หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือการทำธุรกรรมการซื้อขาย การให้บริการ หรือการแลกเปลี่ยนบนระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งกิจกรรมโดยส่วนใหญ่จะอยู่บนแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์และเชื่อมโยงข้อมูลกันด้วยระบบอินเทอร์เน็ต
SOFTWARE WFH
6 Software WFH เด็ดๆ ทำงานที่บ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ Fusion Solution ได้รวบรวม 6 Software WFH เด็ดๆ ทำงานที่บ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ที่องค์กรของคุณควรเลือกใช้ เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัยในยุคโควิด 19 นี้ SharePoint เริ่มที่ตัวแรก SharePoint Online คือ Software ที่เป็นระบบแบบพร้อมใช้งาน มีอยู่ใน Microsoft 365 สามารถใช้งานได้ง่ายมาก
ประเภทสินค้าบน Woocommerce มีอะไรบ้าง
Woocommerce นอกจากประเภทสินค้า แบบ Simple Product ที่ทุกคนมักใช้กันเป็นประจำอยู่แล้ว ยังมีสินค้าอีก 4 แบบด้วยกันให้เลือกใช้ เพื่อให้เหมาะสมกับสินค้าตามธุรกิจของเรา โดยประเภท Product mี่สามารถลงได้นั้นมีด้วยกัน 5 แบบด้วยกัน ดังนี้ Simple Product คือ การลงสินค้าแบบทั่วไป คือ เป็นสินค้าไม่มีซับซ้อน แต่ละชิ้นเป็นราคาเดียว Grouped product คือ การลงสินค้าแบบกลุ่ม สามารถประยุกต์ใช้ได้หลายกรณีตัวอย่างเช่น– รวมกลุ่มเครื่องแต่งตัว เสื้อ
มือใหม่อยากมีเว็บขายของ Platform ไหนดี
ก่อนจะมาคุยกันว่ามือใหม่ที่อยากจะมีเว็บขายของเป็นของตัวเองนั้น Platform E-Commerce แบบไหนถึงจะเหมาะสมและดี นั้นเรามาทำความรู้จักกับ E-Commerce กันคร่าวๆ ก่อนนะคะ เว็บขายของออนไลน์ หรือ ที่ใครๆมักเรียกกันว่า Web E-Commerce ชื่อเต็มๆ ก็คือ “Electronic Commerce” หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั่นเอง ซึ่งหมายถึงการทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้า และ บริการ จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และ เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
How to WooCommerce การตั้งค่าพื้นฐาน Update 2020
ก่อนที่เราจะมาตั้งค่า WooCommerce กัน เราควรมาตั้งค่าในส่วนภาษาของเว็บกันก่อน ถ้ากลุ่มลูกค้าเราคือคนไทยเป็นส่วนใหญ่ เราก็ควรตั้งค่าเว็บเป็นภาษาไทย ระบบเขาจะได้ช่วยแปลคำในระบบตระกร้าสินให้เป็นภาษาไทยให้เราได้ วิธีการเปลี่ยนภาษาบนเว็บของเรา ให้เราไปที่ Settings > General > Site Language เราควรตั้งค่าเว็บให้เป็นภาษาไทย แต่พวกเมนูการใช้งานบนหน้าควบคุม (Dashboard) เราควรตั้งค่าเป็นภาษาอังกฤษ ชื่อเรียกฟังชั่นต่างๆ มันจะได้เป็นสากล ติดขัดอะไรไป Search หาบน google จะเจอคำตอบได้ง่ายกว่า วิธีการเปลียนภาษาเมนูบนหน้าควบคุมให้เราไปเปลี่ยนที่ส่วนของ User การติดตั้งปลั๊กอิน Woocommerce